คุณเป็นคนหนึ่งหรือไม่ ที่สอบข้อเขียนได้คะแนนอยู่ในอันดับท็อปเทน แต่พอถึงบทสัมภาษณ์งานที่ไร สอบตกทุกที ทำให้พลาดโอกาสที่จะได้ทำงานดีๆ หลายครั้งหลายครา และทุกครั้งที่ไม่ผ่านการสัมภาษณ์ คุณก็เอาแต่กล่าวโทษคนอื่นๆ ตั้งแต่กรรมการสัมภาษณ์ ไปจนถึงคนที่สอบผ่าน ได้รับการคัดเลือกเข้าทำงาน โดยไม่เคยหันมาดูข้อบกพร่องของตัวเองเลย
สำหรับมารยาทในการสัมภาษณ์งานที่ควรรู้
- พูดจาห้วนๆ แบบมะนาวหน้าแล้ง ในบางครั้งเมื่อใกล้จบการศึกษา น้องๆ หลายคนอาจจะเริ่มไปสมัครงานทิ้งเอาไว้ แล้วเผลอลืม เมื่อมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ อาจจะในช่วงเวลาที่ติดทำโปรเจ๊คท์ หรือติดเรียน เวลารับโทรศัพท์จึงอาจจะใช้น้ำเสียงห้วนๆ แบบเร่งรีบ อย่างเช่น ไม่ว่างคุย กำลังเรียนอยู่ หรือ ไม่ว่าง ยังเรียนไม่จบ ประมาณนี้ ซึ่งการปฏิเสธอาจปิดโอกาสของคุณโดยไม่รู้ตัว
- ไม่รับเบอร์โทรศัพท์แปลกๆ ซึ่งเป็นกันมาก โดยลืมไปว่า ได้สมัครงานทิ้งเอาไว้ และอาจมีการเรียกตัวไปสัมภาษณ์งานก็เป็นได้
- ปิดโทรศัพท์หนี ในกรณีนี้ มักจะเกิดกับน้องๆ ที่ผ่านการสัมภาษณ์งานไปแล้ว และบริษัทได้ตอบตกลงรับเข้าทำงาน แต่เจ้าตัวเกิดเปลี่ยนใจ ไม่อยากทำงานบริษัทนี้ หรือได้งานอื่นที่น่าสนใจกว่า จึงปิดโทรศัพท์หนี จะได้ไม่ต้องตอบคำถามให้วุ่นวาย
สำหรับมารยาทในการสัมภาษณ์งานที่ควรรู้
- ไม่ควรมองนาฬิกาบ่อยๆ ไม่ว่าคุณจะมีนัดซ้อน หรือต้องรีบไปจัดการธุระอื่นต่อ เพราะการกระทำทุกอย่างขณะนั่งสัมภาษณ์งานอยู่นั้น อยู่ในสายตาของกรรมการทุกท่านอยู่แล้ว จะกลายเป็นว่า คุณอึดอัด อยากจะสัมภาษณ์ให้เสร็จๆ ไปเพื่อจะได้ออกไปจากสถานที่แห่งนั้น
- ปิดโทรศัพท์มือถือก่อนเข้าสัมภาษณ์ หมายถึงปิดเครื่องโทรศัพท์ ระงับการติดต่อชั่วคราว เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนสมาธิขณะสัมภาษณ์งาน เพราะถ้าปิดเสียง ก็ยังมีระบบสั่น ซึ่งจะมีเสียงรบกวนอยู่เช่นเดิม
- แต่งกายให้เหมาะสมกับกาลเทศะ ถ้าเป็นผู้หญิง ไม่ควรสวมเสื้อเว้าลึก หรือกระโปรงแคบสั้น เครื่องประดับควรมีแค่นาฬิกาข้อมือก็น่าจะเพียงพอ ส่วนผู้ชาย ควรเลือกเน็คไทสีสุภาพ ไม่ควรเน้นสีฉูดฉาด มีลวดลายฉวัดเฉวียน
- การแสดงออกของคุณ อยู่ในสายตาของกรรมการทุกท่าน คุณอาจจะเป็นคนชอบยักไหล่ นั่งกัดเล็บเวลาคิดปัญหาไม่ออก เกาศรีษะ เขย่าขา หรือกวาดสายตามองไปทั่วห้องตลอดเวลา นั่นแสดงว่าคุณไม่ให้เกียรติกรรมการ พฤติกรรมส่วนตัวที่เป็นความเคยชินเหล่านี้ จำเป็นต้องฝึกฝน แม้แต่การพูดเร็ว พูดรัวจนจับใจความไม่ได้ ยิ่งตื่นเต้น ยิ่งพูดเร็วขึ้น หากว่าอยากได้งาน ก็ควรจะต้อฝึกฝนตนเองให้รู้จักระงับอาการประหม่าให้ได้ ไม่เช่นนั้น สอบสัมภาษณ์ทีไร เป็นไม่ผ่านทุกที แล้วอย่างนี้จะโทษใครได้ นอกจากตัวเราทำตัวเองแท้ๆ